

6 วิธีดื่มกาแฟที่สายขมยังไม่รู้
1. ดื่มน้ำก่อนดื่มกาแฟนักวิจัยพบว่า
คาเฟอีนมีฤทธิ์ขับน้ำออกจากร่างกายทางปัสสาวะ และคนที่ดื่มกาแฟส่วนใหญ่จะดื่มน้ำเปล่าน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟ เนื่องจากพวกเขามักรู้สึกว่าการดื่มกาแฟคือ การดื่มน้ำแล้ว ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงร่างกายขาดน้ำ คุณควรดื่มน้ำเปล่าก่อนดื่มกาแฟ และพยายามดื่มน้ำให้ได้วันละ 450 มิลลิลิตร
2. งดน้ำตาลเทียม
แม้ว่าน้ำตาลเทียมจะไม่มีแคลอรี แต่นักวิจัยค้นพบแล้วว่าน้ำตาลเทียมหรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจะกระตุ้นให้ร่างกายอยากอาหารมากกว่าเดิม ทำให้เสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกิน โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน ซึ่งวิธีดื่มกาแฟที่ดีที่สุดคือ ไม่เติมความหวานเลย หรือหากทำไม่ได้อาจใช้น้ำผึ้งแทน
3. ใส่น้ำตาลแค่ 1 ช้อนชา
องค์กรเกี่ยวกับโรคหัวใจของสหรัฐอเมริกาแนะนำว่า ในแต่ละวันผู้หญิงควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนคงใช้โควตานี้ไปกับกาแฟ หากชงกาแฟดื่มเองที่บ้านควรเติมน้ำตาลแค่ 1 ช้อนชา แต่หากซื้อตามร้านควรเติมน้ำตาลแค่ 1 ซองเท่านั้น
4. ใช้นมออร์แกนิก
เครื่องดื่มที่ต้องดื่มทุกวันอย่างกาแฟ คุณควรเลือกใช้วัตถุดิบที่ดี เช่น นมจากวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้า (Organic Grass-fed Milk) และครีมออร์แกนิก เพราะจะมีแคลอรีต่ำ ดีต่อหัวใจ และมีคุณค่าทางอาหารมากกว่านมวัวทั่วไป
5. เติมอบเชยและเครื่องเทศ
วิธีหนึ่งที่จะเพิ่มความหวานโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลคือ ใส่เครื่องเทศรสหวาน เช่น อบเชย จันทน์เทศ และกานพลู ซึ่งจะให้ความหอมไปพร้อมกันด้วย
6. งีบหลังกาแฟ
คาเฟอีนจะกระตุ้นให้คุณตื่นหลังจากดื่มไปแล้วประมาณ 30 นาที นั่นหมายความว่า หลังดื่มกาแฟแล้วคุณสามารถงีบได้ 20-30 นาที เพื่อตื่นขึ้นมาด้วยความกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นเป็น 2 เท่า แต่อย่างไรก็ตาม คุณควรหยุดบริโภคคาเฟอีนทั้งในกาแฟและชา 6 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
คาเฟอีนมีฤทธิ์ขับน้ำออกจากร่างกายทางปัสสาวะ และคนที่ดื่มกาแฟส่วนใหญ่จะดื่มน้ำเปล่าน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟ เนื่องจากพวกเขามักรู้สึกว่าการดื่มกาแฟคือ การดื่มน้ำแล้ว ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงร่างกายขาดน้ำ คุณควรดื่มน้ำเปล่าก่อนดื่มกาแฟ และพยายามดื่มน้ำให้ได้วันละ 450 มิลลิลิตร
2. งดน้ำตาลเทียม
แม้ว่าน้ำตาลเทียมจะไม่มีแคลอรี แต่นักวิจัยค้นพบแล้วว่าน้ำตาลเทียมหรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจะกระตุ้นให้ร่างกายอยากอาหารมากกว่าเดิม ทำให้เสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกิน โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน ซึ่งวิธีดื่มกาแฟที่ดีที่สุดคือ ไม่เติมความหวานเลย หรือหากทำไม่ได้อาจใช้น้ำผึ้งแทน
3. ใส่น้ำตาลแค่ 1 ช้อนชา
องค์กรเกี่ยวกับโรคหัวใจของสหรัฐอเมริกาแนะนำว่า ในแต่ละวันผู้หญิงควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนคงใช้โควตานี้ไปกับกาแฟ หากชงกาแฟดื่มเองที่บ้านควรเติมน้ำตาลแค่ 1 ช้อนชา แต่หากซื้อตามร้านควรเติมน้ำตาลแค่ 1 ซองเท่านั้น
4. ใช้นมออร์แกนิก
เครื่องดื่มที่ต้องดื่มทุกวันอย่างกาแฟ คุณควรเลือกใช้วัตถุดิบที่ดี เช่น นมจากวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้า (Organic Grass-fed Milk) และครีมออร์แกนิก เพราะจะมีแคลอรีต่ำ ดีต่อหัวใจ และมีคุณค่าทางอาหารมากกว่านมวัวทั่วไป
5. เติมอบเชยและเครื่องเทศ
วิธีหนึ่งที่จะเพิ่มความหวานโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลคือ ใส่เครื่องเทศรสหวาน เช่น อบเชย จันทน์เทศ และกานพลู ซึ่งจะให้ความหอมไปพร้อมกันด้วย
6. งีบหลังกาแฟ
คาเฟอีนจะกระตุ้นให้คุณตื่นหลังจากดื่มไปแล้วประมาณ 30 นาที นั่นหมายความว่า หลังดื่มกาแฟแล้วคุณสามารถงีบได้ 20-30 นาที เพื่อตื่นขึ้นมาด้วยความกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นเป็น 2 เท่า แต่อย่างไรก็ตาม คุณควรหยุดบริโภคคาเฟอีนทั้งในกาแฟและชา 6 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
Share this Post: